ตรวจพบเร็ว ติดเชื้อเอดส์ระยะแรกหายขาดได้
กว่า 30 ปีแล้ว [1] โลกได้รู้จักกับโรคเอดส์ หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง เอดส์เคยเป็นโรคที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ป่วยและผู้ที่ต้องรักษาผู้ป่วยอย่างมาก เนื่องด้วยเป็นโรคติดเชื้อ และเป็นโรคที่ไม่เคยมีข้อมูลการรักษามาก่อน แต่ปัจจุบันด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า รวมถึงการวิจัยที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรคเอดส์ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดอีกต่อไป รศ.พญ.จินตนาถ อนันต์วรณิชย์ นักวิจัยโรคเอดส์ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์สภากาชาดไทย และหัวหน้าโครงการวิจัยการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีระยะเฉียบพลัน [2] ที่มีผลงานวิจัยที่ได้รับความสนใจอย่างมากในการประชุมแพทย์และนักวิจัยเกี่ยวกับโรคเอดส์และโรคติดเชื้อฉวยโอกาส หรือ "CROI 2013" (The Conference on Retroviruses and Opportunistic Infections) ณ เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา แสดงผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกให้มีโอกาสหายขาดได้
ภายใต้ความร่วมมือเพื่อการวิจัยระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และฮาวาย (เซิร์ช: SEARCH) มีการใช้นวัตกรรมใหม่ ที่เรียกว่า “ระบบแน็ต” ในการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี (NAT: Nucleic Acid Amplification Testing) ทำให้ตรวจหาเชื้อเอชไอวีได้โดยตรง และมีความไวและแม่นยำสูง โดยหากสงสัยว่ารับเชื้อเอชไอวีมาเพียงแค่ 5 วันขึ้นไปก็ตรวจพบได้แล้ว ซึ่งการรู้ผลเร็วภายใน 1-2 วัน และได้รับยาทันทีจะช่วยหยุดการแพร่เชื้อไปยังอวัยวะอื่นๆของร่างกาย โดยยาจะช่วยดักเชื้อไม่ให้ฝังตัวในเซลล์เพื่อขยายพันธุ์ ทำให้มีแนวโน้มที่จะสามารถรักษาได้หายขาด ไม่ต้องรับประทานยาต้านไวรัสต่อเนื่องไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะหากพบในระยะเริ่มแรกไม่เกิน 1 สัปดาห์หลังจากรับเชื้อแล้วและให้กินยาสูตรเบื้องต้นทันที โดยหลังการเฝ้าติดตามผล พบว่า เชื้อแทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในร่างกายเลยหรือพบบางส่วนที่น้อยมาก วิธีการตรวจโดยระบบแน็ตจึงต่างจากวิธีตรวจแบบเดิมที่ต้องรออย่างน้อย 2 สัปดาห์ให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อก่อน ซึ่งจะทำให้เริ่มการรักษาได้ช้า
ศ.นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า "เงื่อนไขสำคัญคือ คนที่จะรักษาหายได้ ต้องเริ่มกินยาตั้งแต่ติดเชื้อมาใหม่ๆ เพราะเชื้อเอชไอวียังไม่แพร่กระจายออกไป แต่เดิมแพทย์มีความเชื่อว่าต้องให้ภูมิคุ้มกันลดลง จึงจะให้เริ่มกินยา แต่งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า หากผู้ใดสงสัยว่าไปมีเพศสัมพันธ์แบบเสี่ยงหรืออาจได้รับเชื้อเอดส์เข้าร่างกายด้วยวิธีใดๆก็ตาม ให้รีบมาตรวจ ถ้าพบเร็วแล้วให้กินยาทันทีจะมีโอกาสรักษาหายได้มากกว่า คำว่ารักษาหายหมายถึงร่างกายควบคุมไม่ให้เชื้อเอชไอวีทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เองโดยไม่ต้องกินยาทุกวันทั้งชีวิตเหมือนผู้ป่วยเอดส์ทั่วไป แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้หมดสิ้น 100 เปอร์เซ็นต์ อยากขอร้องให้ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงรีบมาตรวจหาเชื้อทันทีที่สงสัยหรือรู้ตัวแล้ว อย่าปล่อยไว้นาน เพราะถ้าติดเชื้อนานจะรักษาหายขาดไม่ได้ โดยขอให้มาตรวจฟรีได้ที่คลินิกนิรนาม"
งานวิจัยนี้ถือเป็นงานวิจัยเรื่องเอดส์ของไทยที่มีชื่อเสียงในระดับโลกและยังต้องมีการวิจัยพัฒนาต่อไปอีก และผลการศึกษานี้สามารถช่วยสนับสนุนสมมติฐานที่ว่า หากรักษาได้เร็วก็อาจช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกันคนไข้ให้กลับคืนมาได้ หากในอนาคตสามารถยืนยันการรักษาเอดส์หายขาดจริงได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีของผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่
ข่าวเกี่ยวกับสถิติของยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) [3] ระบุว่า ปี 2554 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2.5 ล้านคน เฉลี่ยเพิ่มนาทีละ 5 คน จากที่ทั่วโลกพบว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 34 ล้านคน ส่วนประเทศไทยคาดการณ์ว่า ในปี 2555 ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเอดส์ประมาณ 5 แสนราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละ 9,000 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 คน และร้อยละ 80 ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
แหล่งอ้างอิง
[1] ทีมงานชาวมัธยมศึกษาและประถมศึกษา. ความเป็นมาของโรคเอดส์: ใน thaigoodview.com [ออนไลน์] 7 ตุลาคม 2545 [เข้าถึงเมื่อ 17 มีนาคม 2556]; http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-5/no49/kurmpenmaaids.html
[2] ผู้จัดการ. ข่าวดี! ผู้ป่วยเอดส์ไม่เกิน 4 สัปดาห์ รักษาไวมีสิทธิหาย: ผู้จัดการออนไลน์ [Online] 15 มีนาคม 2556 [เข้าถึงเมื่อ 17 มีนาคม 2556]; http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000032106
[3] คมชัดลึก. แพทย์ไทยสุดเจ๋งรักษาเอดส์หายขาด: ในคมชัดลึกออนไลน์ [Online] 15 มีนาคม 2556 [เข้าถึงเมื่อ 17 มีนาคม 2556]; http://www.komchadluek.net/detail/20130315/153948/แพทย์ไทยสุดเจ๋งรักษาเอดส์หายขาด.html#.UUVfUBfwbIY
เอ๋ เอกระวี จินดารักษ์
ผู้รวบรวมข่าวคุณภาพชีวิต
20 มีนาคม 2556